อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับสินเชื่อคิดอย่างไร กู้เงินดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 5-10 ต่อเดือนผิดกฎหมายไหม?

ดอกเบี้ยเงินกู้คืออะไร ดอกเบี้ยเงินกู้มีกี่ประเภท

ดอกเบี้ยเงินกู้ คือ เงินตอบแทนที่ผู้ปล่อยกู้จะได้รับจากผู้กู้ เงินตอบแทนนี้จะเป็นเงินคนละส่วนกับเงินต้น นั่นหมายความว่า นอกจากเงินต้นที่ต้องคืนให้กับผู้ปล่อยกู้แล้ว ผู้กู้จะต้องจ่ายเงินตอบแทนให้กับผู้ปล่อยกู้ ซึ่งดอกเบี้ยเงินกู้นั้นจะมีการคิดเป็นร้อยละ หรือเปอร์เซ็นต์ เช่นดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 3 เงินกู้ร้อยละ 10 และดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน เป็นต้น และเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้ถูกกำหนดโดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และอยู่ภายใต้การกกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้การคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะต้องไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ 

ประเภทของดอกเบี้ยเงินกู้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบผสม 

  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Flat Rate) จะมีการคิดดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ตลอดอายุสัญญา และจะมีการตกลงในวันที่ทำสัญญาสินเชื่อผ่านง่าย
  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate) เป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบไม่คงที่ตลอดอายุสัญญา โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะแปรผันตามการลงทุนของผู้ปล่อยกู้ จะจะถูกปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในแต่ละช่วงเวลา
  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบผสม (Mixed Rate Loan) คือการเก็บอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ในช่วงแรก และหลังจากนั้นจะเป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว 

 

คิดดอกเบี้ยเงินกู้อย่างไร ให้เสี่ยงน้อยที่สุด และไม่ให้โดนหลอก 

สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ กู้ง่าย อนุมัติไว” เราคงคุ้นเคยดีกับคำโฆษณาจากผลิตภัณฑ์สินเชื่อต่าง ๆ ที่เชิญชวนเราให้ขอกู้ และเมื่อได้ยินคำว่า เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ กู้เงินดอกเบี้ยต่ำ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกอยากจะขอกู้กับสถาบันการเงินนั้น ๆ ทันที แต่รู้หรือไม่ว่าสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ อาจจะไม่ได้ถูกอย่างที่คิด ดังนั้นเราจะขอกู้อย่างไรให้เสี่ยงน้อยที่สุด และไม่ถูกหลอกกับคำว่าสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เราสามารถทำได้โดยการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก่อนการขอสินเชื่อ วิธีคิดดอกเบี้ยเงินกู้คือการดูร้อยละ หรือเปอร์เซ็นต์ที่ทางสถาบันการเงินกำหนด และนำมารวมกับเงินต้นที่เราขอกู้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะต้องไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี และไม่เกินร้อยละ 1.25 ต่อเดือนเท่าๆ กับยอดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต หากมีการเรียกเก็บเกินกว่านี้ก็จะเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบผิดกฎหมาย 

 

ทำไมต้องเปรียบเทียบดอกเบี้ยเงินกู้ก่อนจะขอสินเชื่อทุกครั้ง

นอกจากเงินต้นที่เราต้องจ่ายในแต่ละเดือนแล้ว ยังมีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เราต้องจ่ายให้กับสถาบันการเงินที่เราขอกู้อีกด้วย ซึ่งการเปรียบเทียบดอกเบี้ยเงินกู้ก่อนการขอสินเชื่อ จะช่วยให้เรารู้ว่าในแต่ละเดือนเราจะต้องจ่ายเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ โดยการหาข้อมูลและลองทำตารางเปรียบเทียบดอกเบี้ยเงินกู้ และคำนวณว่าในแต่ละเดือน จนถึงตลอดระยะเวลาสัญญาเงินกู้ เราจะต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้เท่าไหร่ ที่สำคัญอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เราขอกู้เป็นดอกเบี้ยเงินกู้ประเภทไหน เป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว หรืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบผสม การทำแบบนี้จะช่วยให้เราไม่หลงไปกับโปรโมชั่น หรือโฆษณาชวนเชื่อที่ล่อใจให้เราขอสินเชื่อโดยไม่ได้คิดอย่างรบคอบ